Page 25 - E-BOOK
P. 25
2) มิติการได้มาซึ่งอาหาร : การสนับสนุนโดยรัฐท�าให้เกิดการผูกขาดทางการค้าและท�าลาย
ระบบการแลกเปลี่ยนอาหารของเกษตรกรรายย่อย ไม่ส่งเสริมให้เกิดช่องทางการเข้าถึงอาหารซึ่งผู้บริโภคสามารถ
เข้าถึงได้อย่างหลากหลาย ฯลฯ
๓) มิติด้านการกระจายและการเข้าถึงอาหาร : ทิศทางเชิงนโยบายยังมุ่งส่งเสริมการ
ผูกขาดทางด้านการตลาดโดยระบบโมเดิร์นเทรดและให้บทบาทหลักแก่ธุรกิจอาหารในการสร้างความมั่นคง
ทางอาหารทั้งในการผลิต และการกระจาย และยังมุ่งไปในทิศทางสร้างการผูกขาดด้านสิทธิบัตรผ่านข้อตกลง
ระหว่างประเทศ นโยบายสาธารณะที่ด�ารงอยู่ไม่มีความชัดเจนในการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน
และเพิ่มบทบาทของเกษตรกรผู้ผลิต และผู้ประกอบการรายย่อย
๔) มิติการเข้าถึงแหล่งอาหารจากฐานทรัพยากรของชุมชน : นโยบาย กฎหมาย เกี่ยวข้องที่แม้
จะมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายส�าคัญ ๓ ฉบับ คือ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2๕๖2 พ.ร.บ.สงวนและ
คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2๕๖2 และ พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2๕๖2 แต่กฎหมายดังกล่าวยังไม่มีบทบัญญัติรองรับ
สิทธิชุมชนและการใช้ประโยชน์ฐานทรัพยากรยังมีข้อจ�ากัดแก่ชุมชนท้องถิ่นในการเข้าถึงแหล่งอาหารจากฐาน
ทรัพยากรอย่างมาก ท�าให้ชุมชนไม่สามารถสร้างความมั่นคงทางอาหารจากฐานทรัพยากรได้ ในสภาวะวิกฤติ
ความมั่นคงทางอาหารยังขาดความชัดเจนด้านมาตรการ นโยบาย ฯลฯ ที่ให้ความช่วยเหลือต่อกลุ่มผู้เปราะบาง
ผู้ด้อยโอกาส หรือ ผู้ที่หลุดจากกลไกทางสังคมไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรหรือบริการทางสังคม หรือถูกกีดกัน
ไม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมทางสังคมหรือทางการเมือง ซึ่งรวมไปถึงแรงงานต่างชาติ หรือบุคคลไร้รัฐ ฯลฯ
๔.๒ นโยบายสาธารณะที่หนุนเสริมหรือเสริมสร้างให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร
นโยบายสาธารณะที่หนุนเสริมหรือเสริมสร้างให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร ประกอบด้วยสองส่วน คือ
(1) นโยบายของรัฐ ที่เกิดขึ้นในช่วงของสถานการณ์โควิด-19 และมีผลต่อการหนุนเสริมให้เกิดความมั่นคงทาง
อาหาร เช่น นโยบายจ่ายเงินเยียวยาภายใต้โครงการเราไม่ทิ้งกัน และโครงการเยียวยาเกษตรกร ในจ�านวนเงิน
ราว ๖ แสนล้านบาท และนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จ�านวน
เงินราว ๔ แสนล้านบาท รวมทั้งนโยบายและมาตรการด้านการแจกถุงยังชีพ และการระดมการบริจาคอาหาร
ในรูปแบบต่าง ๆ และ (2) ในส่วนของสังคม ได้เกิดนโยบายสาธารณะด้านความมั่นคงทางอาหารซึ่งไม่ได้มา
จากด้านของนโยบายสาธารณะจากผู้มีอ�านาจตัดสินใจเชิงนโยบาย แต่เป็นการขับเคลื่อนร่วมกันในสังคม
รวมทั้งในระดับกลุ่ม องค์กร หรือภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการจัดการชีวิตสาธารณะร่วมกันและได้มา
ซึ่งหลักประกันความมั่นคงทางอาหารในรูปแบบต่าง ๆ เช่น มิติการแลกเปลี่ยนแบ่งปันอาหารในรูปแบบต่าง ๆ
การพัฒนาระบบการกระจายอาหารในชุมชน ธรรมนูญสุขภาพชุมชน ฯลฯ
๔.๒.๑ นโยบายระยะสั้น (ช่วงวิกฤติ)
1) การจัดการเพื่อรับมือภาวะวิกฤต ควรมีมาตรการเตรียมพร้อมที่ส�าคัญๆ อาทิ ระบบการ
ส�ารองอาหาร มีระบบแจ้งเตือนให้มั่นใจว่ามีอาหารอยู่เพียงพอ ทั้งในพื้นที่เมือง และชนบท ในภาวะวิกฤต และ
หลังวิกฤต
2) ในมิติด้านกฎหมาย ควรเพิ่มบทลงโทษต่อผู้กักตุนสินค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อย
และในมิติทางสังคม ชุมชน และกลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ ควรมีปฏิบัติการ “การลงโทษทางสังคม” ด้วยการก�าหนด
มาตรการทางสังคมร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนเป็นส่วนหนึ่งของการเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามและตรวจสอบ
๓) ช่วงเกิดวิกฤตอาหาร ควรมีมาตรการน�าพื้นที่ว่างเปล่า รวมถึงที่ดินเอกชนที่ว่างเปล่าไม่ได้
มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๓ 2๓