Page 28 - E-BOOK
P. 28

12) เมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร ต้องมีระบบการจัดการอาหารที่ปลอดภัย และระบบ
            การจัดการห่วงโซ่อาหาร พร้อมทั้งระบบการกระจายอาหาร (Logistics) โดยอาจเน้นการใช้ระบบการ

            กระจายอาหารผ่านระบบออนไลน์มากกว่าการปลูกในพื้นที่จ�ากัดที่ต้องใช้เทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันยังไม่
            สามารถผลิตได้เพียงพอต่อการบริโภคในเมือง

                                  1๓) นโยบายเกี่ยวกับการกระจายการถือครองที่ดิน  เพื่อท�าให้เกษตรกรไม่มีที่ดินเป็นของ
            ตนเองสามารถครอบครอง เข้าถึงที่ดินในฐานะฐานการผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่นคงทางอาหารที่ส�าคัญ

            รัฐควรจัดหาพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้เกษตรกรเช่าในราคาถูกในการผลิต

                                  1๔) นโยบายด้านการสร้างฐานทรัพยากรชุมชน เช่น สร้างป่าเศรษฐกิจ การจัดการแหล่ง
            อาหารจากธรรมชาติ ที่ชุมชนจะใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน เช่น การมีกฎ ระเบียบในการจัดการร่วม

            หรือป้องกันการเก็บหาเชิงท�าลายจากชุมชนอื่นๆ การจัดการพืชอาหารในไร่หมุนเวียนให้มีความหลากหลาย

                                  1๕) การปรับหรือแก้กฎหมาย นโยบาย รวมทั้งบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มี
            บทบัญญัติรองรับสิทธิในอาหาร สิทธิชุมชน และรับรองให้คนในชุมชนสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะได้
            โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนจัดการแหล่งอาหารจากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชน  เช่น

            การจัดการป่าชุมชน ป่าบุ่งป่าทาม เขตอนุรักษ์สัตว์น�้า แหล่งน�้าสาธารณะ ฯลฯ

                                  1๖) การใช้พื้นที่สาธารณะหรือที่ว่างเปล่าที่อยู่ในพื้นที่ชุมชน จัดเป็นพื้นที่กลางส�าหรับ
            สร้างแหล่งอาหาร จุดรวมผลผลิต จุดกระจายสินค้าชุมชน สวนผักชุมชน ฯลฯ

                                  1๗) ควรก�าหนดมาตรการ นโยบาย ฯลฯ เพื่อมุ่งช่วยเหลือต่อกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส

            หรือ ผู้ที่หลุดจากกลไกทางสังคม ไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรหรือบริการทางสังคม หรือถูกกีดกันจากการ
            มีส่วนร่วมทางสังคมหรือทางการเมือง ตลอดจนแรงงานต่างชาติ หรือบุคคลไร้รัฐ ฯลฯ ทั้งในหน่วยงานรัฐ
            ส่วนกลาง ภูมิภาค และระดับองค์กรปกครองท้องถิ่น จะช่วยหนุนเสริมให้เกิดการเข้าถึงอาหารในกลุ่ม
            ผู้เปราะบาง


                                  1๘) ควรส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
            เพราะการช่วยเหลือมักไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย การช่วยเหลือควรท�าเป็นระยะเร่งด่วน ให้การช่วยเหลือปัจจัย ๔
            และระยะฟื้นฟู ควรให้กลุ่มเปราะบางได้พึ่งพาตนเองได้ตามศักยภาพ นอกจากนี้  การให้ความช่วยเหลือ

            ผู้เปราะบางให้ทั่วถึงและเท่าเทียม  ต้องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงเป็นองค์กรจัดท�าข้อมูล  และมี
            คนในชุมชนประสานข้อมูลผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ข้อมูลกลุ่มประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
            จ�านวน 1๔ ล้านคน และข้อมูลกลุ่มประชาชนที่รัฐบาลต้องใช้เงินอุดหนุนเยียวยาในช่วงสถานการณ์โควิด-19
            ระบาด จ�านวนที่ลงทะเบียน 2๘-๓๐ ล้านคน ฯลฯ


                                  1๙) ควรหนุนเสริมการขับเคลื่อนร่วมกันในสังคม รวมทั้งในระดับกลุ่ม องค์กร หรือ
            ภาคีเครือข่าย เพื่อให้เกิดการจัดการชีวิตสาธารณะร่วมกัน โดยควรเป็นนโยบายที่ให้ความส�าคัญต่อหน่วยย่อย
            หรือกลุ่มคน/องค์กรต่างๆ ตลอดทั้งห่วงโซ่ของอาหารสามารถด�าเนินการได้โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือ
            และการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบตั้งแต่การผลิต การกระจายผลผลิต และการบริโภค ในภาคการ
            ผลิตอาหาร  ได้แก่  กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิต  กลุ่ม/องค์กรที่ท�าหน้าที่เกี่ยวกับทรัพยากรในการผลิต  เช่น

            ทรัพยากรที่ดิน แหล่งน�้า, กลุ่มสนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยชีวภาพ สารบ�ารุงดิน เป็นต้น ภาคการกระจาย
            ผลผลิต ได้แก่ ผู้ค้ารายย่อย ผู้รวบรวมผลผลิตในท้องถิ่น ตลาดในท้องถิ่น รวมถึงความต้องการจากกลุ่ม
            ผู้บริโภค



            2๖     มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๓
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33