Page 27 - E-BOOK
P. 27
๕) เครือข่ายความมั่นทางอาหารมีข้อเสนอแบบเอกฉันท์ว่า ควรน้อมน�าหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เป็นทิศทางการสร้างความมั่นคง
ทางอาหาร
๖) ควรมีมาตรการเพื่อน�าที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมาย
แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1๓๐๔ ซึ่งบัญญัติเรื่องสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์
หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน เช่น ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ที่ดินสาธารณประโยชน์ ฯลฯ น�ามาใช้
เพื่อความมั่นคงทางอาหาร
๗) นโยบายหนุนเสริมการสร้าง “ความมั่นคงทางอาหารจากฐานของชุมชน” ให้ชุมชนเป็น
แหล่งผลิตอาหาร ระบบการแลกเปลี่ยนและการกระจายอาหารทั้งในสภาวะปกติและในภาวะวิกฤติ
มีแนวทางจัดการพื้นที่ผลิตอาหารในระดับครอบครัว และระดับชุมชน สร้าง “ตู้เย็นรอบบ้าน” สนับสนุน
ให้เกิดธนาคารอาหารในชุมชน ทั้งชุมชนเมือง และชุมชนชนบท โดยมีรูปแบบที่หลากหลายสอดคล้องกับ
ภูมิสังคมวัฒนธรรมของท้องถิ่นด้วยหลักการส�าคัญ คือ “สะสม หมุนเวียน เรียนรู้ และแบ่งปัน” โดยชุมชน
ควรมี “แผนชุมชน ด้านความมั่นคงด้านอาหารในภาวะวิกฤต” มีกฎ ระเบียบชุมชน ด้านความมั่นคงทาง
อาหาร หรือก�าหนดธรรมนูญการใช้พื้นที่ร่วมเพื่อความมั่นคงทางอาหาร
๘) ควรก�าหนดมาตรการ นโยบายเพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจอาหารและปัจจัยสี่
ขนาดเล็กหรือในระดับเล็กๆ ที่มีการวางแผนในระดับท้องถิ่นเพื่อผลิตอาหาร และปัจจัยสี่ แปรรูปซื้อขาย
กันในขอบเขตพื้นที่ที่ชัดเจน ในระดับชุมชน หมู่บ้าน/ต�าบล และชุมชนท้องถิ่น ซึ่งขับเคลื่อนโดยกลไกของ
ประชาชน ผู้ค้ารายย่อย ชุมชน ท้องถิ่น โดยมีมาตรการชดเชยต้นทุนด้านการขนส่ง ฯลฯ
๙) การส่งเสริมตลาดท้องถิ่น ตลาดชุมชนในทุกระดับ เช่น ตลาด “๔ ร” คือ โรงพยาบาล
โรงเรียน/ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ร้านอาหาร โรงแรม การกระจายอาหารในหมู่บ้าน เช่น รถเร่ รถพุ่มพวง
การกระจายโดยผู้ผลิตในชุมชนมีตลาดนัดชุมชน ตลาดนัดในโรงพยาบาล ตลาดเคลื่อนที่ ศูนย์การกระจาย
วิสาหกิจ/กลุ่มผู้ผลิตในชุมชนท้องถิ่น มีตลาดชุมชนให้ครบทุกหมู่บ้าน การสร้างระบบการจัดการกระจาย
อาหารในท้องถิ่นให้ได้ ส่งเสริมให้เกิดการผลิตในชุมชนมากขึ้น เพื่อลดการน�าเข้าอาหารจากที่อื่น และลด
ระยะทางในการขนส่ง การส่งเสริมการขยายตลาดท้องถิ่นในการกระจายอาหารโดยตรงระหว่างเกษตรกร
และผู้บริโภค และการพัฒนาระบบตลาดออนไลน์ในการเชื่อมโยงระบบอาหารระหว่างเมืองกับชนบทได้
โดยตรง สามารถหนุนเสริมความมั่นคงทางอาหารได้อย่างพอเพียงและรวดเร็ว
1๐) การเพิ่มทักษะ ความรู้ เพื่อรับมือยามวิกฤติ เช่น พื้นฐานด้านการผลิตอาหาร ถนอมอาหาร
ให้ทุกคนต้องสร้างด้วยตนเอง ต้องรู้และเข้าใจกระบวนการปลูกได้ด้วยตนเอง การสร้างฐานความมั่งคง
ทางอาหารในระดับครอบครัวและชุมชนด้วยการผลิตเพื่อบริโภคอย่างพอเพียง ทั้งในระดับบุคคลก็ปลูก
ผักที่กินได้เอง ในระดับชุมชนก็สนับสนุนให้ภาคีปลูก และรับประทานทั้งโรงเรียนและในชุมชน การให้ความรู้
เรื่องการถนอมอาหารในระยะยาว
11) ชุมชนเมืองควรหนุนเสริมให้ปลูกพืชผักสวนครัวตามริมรั้วในกระถาง และภาชนะอื่นๆ
ที่สามารถน�ามาปลูกพืชทดแทนการปลูกไม้ประดับในพื้นที่ที่มีความจ�ากัด ควรอนุญาตให้มีการน�าพื้นที่
สาธารณะหรือที่รกร้างว่างเปล่าทั้งของหน่วยงานรัฐและเอกชนในชุมชนมาท�าประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่อง
การเพาะปลูกเพื่อเป็นแหล่งอาหารให้กับชุมชน และมีระบบในการบริหารจัดการที่ดี
มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๓ 2๕